จังหวัดพะเยา มีความโดดเด่นทางการท่องเที่ยวทั้งการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ วัฒนธรรมท้องถิ่น โดยเฉพาะชาติพันธุ์ไทลื้อ ประเพณีเวียนเทียนกลางน้ำในกว๊านพะเยาหนึ่งเดียวในโลก ความสวยงามของ กว๊านพะเยา และการท่องเที่ยวเชิงเกษตร โดยเฉพาะสวนลิ้นจี่ที่ได้ชื่อว่ามีรสชาติอร่อยหวาน หอม สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวในแต่ละปีจำนวนมาก กระจายรายได้สู่ท้องถิ่นและชุมชน
นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานเชียงราย ซึ่งรับผิดชอบด้านการส่งเสริมการตลาดและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย และพะเยา กล่าวว่า ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย รวมถึง การท่องเที่ยวของจังหวัดพะเยาได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา และมีแนวโน้มที่ดีขึ้น รัฐบาลโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มีนโยบายที่จะฟื้นการท่องเที่ยวโดยเฉพาะตลาดการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยเชิญชวนนักท่องเที่ยวคนไทยให้เดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ในปี 2565 เป็นต้นมา ประกอบกับการที่คนไทย บุคลากรในสถานประกอบการต่างๆได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 มากขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งการได้รับมาตรฐาน Safety and Health Administration (SHA) และ SHA Plus สร้างความมั่นใจในการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น ภายใต้การป้องกันของกระทรวงสาธารณสุข นั้น
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย จึงได้บูรณาการส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดพะเยา ร่วมกับภาครัฐ เอกชน สมาคม/ชมรมด้านการท่องเที่ยวจังหวัดในปี 2565 ด้วยกิจกรรมทางการท่องเที่ยว การทำตลาดร่วมกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวในพื้นที่ รวมถึงผู้ประกอบการนำเที่ยวทั้งจากกรุงเทพฯ และจังหวัดเชียงใหม่ จัดทำโปรแกรมนำเที่ยวพะเยาเสนอขายแก่นักท่องเที่ยว รวมทั้งการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวผ่าน Bloggers และสื่อออนไลน์ และออฟไลน์ เป็นระยะ สามารถกระตุ้นการท่องเที่ยวและสร้างความมั่นใจใน การเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดพะเยาได้เป็นอย่างดี เพื่อให้การท่องเที่ยวจังหวัดพะเยามีความต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงกรีนซีซั่นที่จะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป ททท.สำนักงานเชียงรายจึงกำหนดแคมเปญ การท่องเที่ยวจังหวัดพะเยาภายใต้ชื่อ “แอ่วพะเยา ชิมลิ้นจี่ที่แม่ใจ ไปสัมผัสวัฒนธรรมไทยลื้อที่เชียงคำ” ผนวกทั้งการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ธรรมชาติ และการท่องเที่ยวเชิงเกษตร เข้าด้วยกัน
อำเภอแม่ใจเป็นแหล่งปลูกลิ้นจี่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดพะเยา โดยมีพื้นที่ปลูกรวมประมาณ 16,000 ไร่ และเป็นลิ้นจี่คุณภาพ หอม หวานลูกใหญ่น่ารับประทาน ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์ฮงฮวย จักรพรรดิ โอเฮี๊ย มีผลผลิตในช่วงปลายเมษายน พฤษภาคม ไปจนถึง มิถุนายน ของทุกปี นอกจากนี้ ลิ้นจี่แม่ใจพันธุ์ฮงฮวยยังเป็นพืช บ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของพะเยา หรือ GI ด้วย นักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจสามารถสั่งซื้อลิ้นจี่พันธุ์ดี รสชาติอร่อยของพะเยา โดยสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดพะเยา โทร. 054-431636
จังหวัดพะเยายังมีกลุ่มชาติพันธุ์ไทลื้อที่คงไว้ซึ่งวัฒนธรรมอันดีงาม ส่งต่อเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรม จากรุ่นสู่รุ่น ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ที่อำเภอเชียงคำ และอำเภอเชียงม่วน สำหรับชาวไทลื้อที่อาศัยอยู่ในแถบ ตำบลหย่วน อำเภอเชียงคำ มีการดำเนินกิจกรรมท่องเที่ยวชุมชนด้วยรถราง นำชมวัดพระธาตุสบแวน วัดหย่วน วัดแสนเมืองมา บ้านไทลื้อแม่แสงดา รวมถึงกิจกรรมสัมผัสประสบการณ์ไทลื้อ ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกทำและเลือกชิม อาทิ การเรียนรู้ผ้าทอไทลื้อหัตถศิลป์อันทรงคุณค่า ชิมอาหารเมนูขันโตกไทลื้ออันเป็นเอกลักษณ์ เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ชุมชนกลับไปเป็นของฝากอีกด้วย นอกจากนี้ จังหวัดพะเยามีประเพณีเวียนเทียนทางน้ำ กลางกว๊านพะเยาหนึ่งเดียวในโลก ซึ่งจัดขึ้นปีละ 3 ครั้ง ในวันมาฆบูชา วิสาขะบูชา และ วันอาสาฬหบูชา โดยมีกิจกรรมชมทิวทัศน์กว๊านพะเยา การแสดงศิลปวัฒนธรรม ชิมอาหารพื้นเมืองพะเยา ช๊อปผลิตภัณฑ์สินค้าทางวัฒนธรรมสินค้าโอทอปจังหวัดพะเยา สำหรับประเพณีเวียนเทียนทางน้ำ กลางกว๊านพะเยาหนึ่งเดียวในโลก ครั้งที่ 45 กำหนดจัดขึ้นในวันวิสาขบูชา ระหว่างวันที่ 13-15 พฤษภาคม 2565 ณ บริเวณกว๊านพะเยา
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ททท. สำนักงานเชียงราย ขอเชิญชวนนักท่องที่ยวเดินทางมาสัมผัสเสน่ห์การท่องเที่ยวจังหวัดพะเยา ทั้งในด้านความสวยงามธรรมชาติ วัฒนธรรมไทลื้อที่น่าค้นหา ลิ้มรสลิ้นจี่แม่ใจคุณภาพ หอม หวาน อร่อย อุดหนุนลิ้นจี่แม่ใจสินค้า GI ขึ้นชื่อของจังหวัดพะเยา และร่วมงานประเพณีเวียนเทียนทางน้ำกลางกว๊านพะเยา ครั้งที่ 45 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานเชียงราย โทร.053 717433 หรือ TAT Call Center โทร.1672 เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย, facebook.com/ททท.สำนักงานเชียงราย-พะเยา